ออกแบบเพื่อการขยายตัวและความซ้ำซ้อน สามารถขยายได้ง่ายเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น
UPS ย่อมาจาก Uninterruptible Power Supply หรือ เครื่องสำรองไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จ่ายไฟฟ้าสำรองเมื่อไฟฟ้าหลักเกิดขัดข้องเพื่อป้องกันอุปกรณ์และข้อมูลไม่ให้เสียหายในขณะที่ไฟฟ้าดับ ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้
รับกระแสไฟฟ้าหลัก : UPS จะรับกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) จากไฟฟ้าหลัก
การแปลงไฟฟ้า: UPS จะแปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากกระแสไฟฟ้าหลักเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC)
การชาร์จแบตเตอรี่: กระแสไฟฟ้าตรง (DC) จะถูกชาร์จแบตเตอรี่ภายใน UPS
การจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์: UPS จ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่มีความเสถียรจากแบตเตอรี่ไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
การแปลงไฟฟ้า: เมื่อกระแสไฟฟ้าหลักกลับมาเป็นปกติ UPS จะแปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแบตเตอรี่กลับเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เหมือนเดิม
การจ่ายไฟจากกระแสไฟฟ้าหลัก: UPS จ่ายไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากกระแสไฟฟ้าหลักไปยังอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่
การชาร์จแบตเตอรี่: UPS ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอีกครั้ง
UPS มีหลายประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน
เหมาะสำหรับการใช้งานที่คุณภาพไฟฟ้าค่อนข้างเสถียร หรือต้องการป้องกันการไฟฟ้าดับในระยะสั้นๆ และมีความผันผวนของแรงดันไฟฟ้าเล็กน้อย เหมาะสำหรับระบบขนาดเล็กและไม่สำคัญมากแต่ยังต้องการการป้องกันไฟฟ้าที่เชื่อถือได้
การใช้งาน Line-Interactive UPS
สำนักงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง: สามารถป้องกันอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์อื่นๆ ภายในสำนักงานในขณะที่ไฟฟ้าดับหรือมีความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า
สำนักงานหรือที่อยู่อาศัย: สามารถป้องกันอุปกรณ์ภายในสำนักงาน หรือบ้านที่อยู่อาศัย เช่น คอมพิวเตอร์ โมเด็ม และเราเตอร์
ระบบจุดขาย (POS): สามารถป้องกันความเสียหายของเครื่อง POS ในขณะที่ไฟฟ้าดับ หรือ เกิดไฟตก /ไฟเกิน เพื่อลดความสูญเสียการทำธุรกรรมในระหว่างที่ไฟฟ้าดับได้
เซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก: สามารถป้องกันเซิร์ฟเวอร์ไม่ให้เสียหายในขณะไฟฟ้าดับและ เซิร์ฟเวอร์ยังสามารถทำงานในระหว่างการไฟฟ้าดับในระยะสั้นๆ ได้
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบกล้องวงจรปิดสามารถทำงานและบันทึกภาพได้ต่อเนื่องในขณะที่ไฟดับ
อุปกรณ์โทรคมนาคม: รักษาการทำงานของอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครือข่ายขนาดเล็กในระหว่างการลดแรงดันไฟฟ้าและการดับไฟ
อุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์: เหมาะสำหรับระบบโฮมเธียเตอร์สามารถป้องกันระบบโฮมเธียเตอร์ภายในบ้านได้ในระหว่างที่ไฟฟ้าดับชั่วขณะ หรือ เกิดไฟฟ้าตก ไฟฟ้าเกิน
ระบบนี้ถูกออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมที่คุณภาพไฟฟ้ามีความสำคัญ และแม้แต่การหยุดชะงักหรือการเบี่ยงเบนของพลังงานที่เล็กที่สุดก็อาจส่งผลกระทบอย่างมาก ระบบเหล่านี้เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ศูนย์ข้อมูล สถานพยาบาล และการดำเนินงานในอุตสาหกรรมที่ต้องการพลังงานที่สะอาดและต่อเนื่อง
การใช้งาน True Online UPS
ศูนย์ข้อมูล: ให้พลังงานที่ต่อเนื่องและสะอาดสำหรับโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลที่สำคัญ รับประกันว่าไม่มีการหยุดชะงักในการดำเนินงาน
สถานพยาบาล: ป้องกันอุปกรณ์การแพทย์ที่ช่วยชีวิต เช่น เครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์ภาพถ่าย จะยังคงทำงานได้ในระหว่างที่ไฟฟ้าดับ
การอัตโนมัติในอุตสาหกรรม: ปกป้องระบบควบคุมอุตสาหกรรมและเครื่องจักรจากความผิดปกติของพลังงาน สามารถทำให้กระบวนการผลิตทำงานได้อย่างราบรื่น
สถาบันการเงิน: รักษาระบบการเงินที่สำคัญและเซิร์ฟเวอร์การประมวลผลธุรกรรมให้ทำงานต่อเนื่อง ป้องกันข้อมูลไม่ให้สูญหายในขณะที่ไฟฟ้าดับ
สถานีออกอากาศ: ป้องกันอุปกรณ์สำหรับการออกอากาศและสามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่ขาดตอน
โทรคมนาคม: ให้พลังงานสะอาดและเชื่อถือได้สำหรับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมขนาดใหญ่ ป้องกันการทำงานอย่างต่อเนื่อง
เซิร์ฟเวอร์และบริการคลาวด์: ป้องกันอุปกรณ์ของเซิร์ฟเวอร์และผู้ให้บริการคลาวด์ สามารถทำงานได้ต่อเนื่องและความเชื่อถือได้สูง
ระบบโสตทัศนูปกรณ์ระดับสูง: เหมาะสำหรับการตั้งค่าโสตทัศนูปกรณ์มืออาชีพ
ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าขัดข้อง
ป้องกันข้อมูลสูญหาย
ช่วยให้มีเวลาเพียงพอในการบันทึกข้อมูลและปิดเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี
ช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดชะงัก
ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากไฟกระชาก ไฟตก ไฟเกิน
เครื่องสำรองไฟฟ้า หรือ UPS (Uninterruptible Power Supply) ประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ดังนี้
แบตเตอรี่ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าสำรองไว้ เมื่อกระแสไฟฟ้าหลักดับ แบตเตอรี่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อพ่วงอยู่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องสำรองไฟฟ้า ทั่วไปจะมี 2 ประเภท คือ
แบตเตอรี่ตะกั่วกรด : มีราคาที่ประหยัด แต่มีอายุการใช้งานสั้น น้ำหนักมาก และต้องดูแลรักษาเป็นประจำ
แบตเตอรี่แบบ VRLA (Valve Regulated Lead Acid) : ราคาจะสูงกว่าแบตเตอรี่ตะกั่วกรด แต่มีอายุการใช้งานยาวนาน น้ำหนักเบา และไม่ต้องดูแลรักษา
ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแบตเตอรี่ ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่อุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปใช้งานได้
ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากไฟฟ้าหลัก ให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
นอกจากส่วนประกอบหลักทั้ง 3 ส่วนนี้แล้ว เครื่องสำรองไฟบางรุ่นอาจมีส่วนประกอบเพิ่มเติม เช่น
ระบบควบคุมการทำงาน (Control System): ควบคุมการทำงานของเครื่องสำรองไฟทั้งหมด เช่น ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ แจ้งเตือนเมื่อไฟฟ้าดับ หรือปิดเครื่องสำรองไฟอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด
ซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการ (Management Software): ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและ monitor การทำงานของเครื่องสำรองไฟผ่านคอมพิวเตอร์
ระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection): ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากความเสียหายที่เกิดจากไฟกระชาก
การเลือกเครื่องสำรองไฟ (UPS) ให้เหมาะกับการใช้งานนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
ความต้องการใช้งาน
- พิจารณาว่าต้องการสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์อะไรบ้าง เช่นคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ เครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
- คำนวณกำลังไฟ (VA) ของอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต้องการสำรองไฟ
- เลือก UPS ที่มีกำลังไฟมากกว่าหรือเท่ากับกำลังไฟรวมของอุปกรณ์
ระยะเวลาสำรองไฟ
- พิจารณาว่าต้องการสำรองไฟนานแค่ไหน โดยทั่วไป UPSจะมีระยะเวลาสำรองไฟอยู่ที่ 5 - 10 นาท
- เลือก UPS ที่มีระยะเวลาสำรองไฟเพียงพอต่อความต้องการ
ประเภทของ UPS
- UPS แบบ Line Interactive: เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก อุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ
- UPS แบบ Online: เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความเสถียรสูง เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อน ฯลฯ
คุณสมบัติอื่นๆ
- รูปคลื่นไฟฟ้าขาออก: เลือก UPS ที่มีรูปคลื่นไฟฟ้าขาออกแบบ Sine Wave เหมาะสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อน
- จำนวนเต้ารับไฟฟ้า: เลือก UPS ที่มีจำนวนเต้ารับไฟฟ้าเพียงพอต่อการใช้งาน
- ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม: เช่น ระบบป้องกันไฟกระชาก ระบบป้องกันไฟเกิน ระบบควบคุมอุณหภูมิ ฯลฯ
ปกป้องอุปกรณ์สำคัญจากการไฟฟ้าดับและความผันผวนด้วยระบบ UPS ที่เชื่อถือได้จาก CBC Inter
กรุณากรอกแบบฟอร์มติดต่อของเรา สมาชิกทีมงานของเราจะติดต่อกลับโดยเร็วที่สุด เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพพลังงานของคุณ
และแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด